ต่อมาตลาดโลก Tablet เริ่มมีบทบาทเข้ามาพัฒนาให้ทำหน้าที่คล้ายคลึงกับ ระบบปฏิบัติการวินโดว์ และถึงตอนนี้เอง Amazonก็ได้พัฒนามาเป็น Kindle Fire ที่มีจอภาพสี ที่รองรับระบบ Android อีกด้วย Amazonตั้งใจจะก้าวเข้ามาบุกตลาด Tablet อย่างเต็มตัว ด้วยการปล่อยตัว Kindle Fire HD ที่สามารถตอบสนองกับความต้องการของ ชาวอเมริกัน,ชาวแคนาดา และชาวตะวันออกอย่างประเทศญี่ปุ่น
Kindle Fire HD รุ่นนี้สามารถดูหนังออนไลน์HD ผ่านWifi โดยไม่ทำให้ภาพสะดุดหรือกระตุกหรือค้างในการดูออนไลน์(Steaming)
เหตุที่ดูหนังไม่สะดุดหรือค้าง ก็เพราะ Kindle fire HD จะมี Wifi อยู่ 2ตัวในเครื่อง ตัวหนึ่งคือ Dual Anthena อีกตัวคือ Dual Band ที่ทำหน้าที่สอดคล้องกับการ ดาวน์โหลด จึงสามารถดาวน์โหลดด้วยความเร็ซที่มากกว่าแท็บเล็ตอื่นๆทั่วไปได้ถึง 40% หมดห่วงเรื่องการดูหนัง ที่มีภาพคุณภาพสูง
แต่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ หากเราเมื่อยสายตาในขณะอ่านหนังสือ กดปุ่มฟังค์ชั่นให้เจ้าKindle Fire อ่านหนังสือให้เราฟังไปด้วยเลย (สามารถซื้อหนังสือได้โดยผ่านเว็บAmazon ทุกที่ในราคาที่ถูกหรือ โหลดจากในคอมฟรีๆก็มีแจกกัน)
ยิ่งไปกว่านั้น หากเราไม่เข้าใจคำไหน ก็กดตรงนั้นค้าง Kindle fire จะแปลให้เราทันทีทันใด ส่วนแท็บเล็ตทั่วไปได้แค่ไฮไลส์ปกติเท่านั้น แถมมีฟังค์ชั่นที่ชื่อว่า X-ray มาให้อธิบายที่มาตัวละครในหนังสือ และในภาพยนตร์ที่เราดูอีกด้วย เมื่ออ่านถึงหน้าไหนอยู่ ครั้งต่อไปเราต้องการจะอ่านต่อ Kindle Fire จะจัดการคั่นหนังสือให้และจัดเก็บไว้เพื่อดูอีกครั้ง
คุณสมบัติ เรื่องเสียงระบบดอล์บี้สเตริโอ สองข้าง ฝังข้างละสองตัว เสียงกระหึ่มจริง ได้อรรถรสในการดู
นอกจากนั้นก็จะมีแอพพลิเคชั่นและเกมส์อีกมากมาย รุ่นที่มีความจุ 8GB หากกลัวว่าเปลืองเมม ให้เราบันทึกไว้ใน Cloud ของ Amazon โดยมีพื้นที่ให้ 5GB พวกหนังหรืออื่นๆที่เกินเนื้อที่มาก ก็ควรเก็บไว้ แล้วหนังที่เก็บไว้ใน Cloud ก็สามารถนำไปเปิดกับเครื่องระบบใดก็ได้ ทั้งวินโดว์ แอนดรอยด์หรือไอโอเอสอย่าง Apple
เพียงแค่ลงโปรแกรมสำหรับเปิดหนังของAmazon ในเครื่องที่จะเปิดโดยเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านCloudก็สามารถดูหนังระดับ HDได้
Kindle Fire 7 นิ้ว 8GB
Kindle Fire HD 7 นิ้ว 16GB
Kindle Fire HD 7 นิ้ว 32GB
Kindle Fire HD 8.9 นิ้ว 16GB
แสดงความคิดเห็น